.svg)
ปัจจุบันการสมัครเรียนปริญญาโทไม่จำเป็นต้องยึดติดกับคะแนนสอบหรือผลการเรียนเก่าที่ผ่านมาอีกต่อไป WeStride ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงใหม่ในการสมัครเรียนปริญญาโทด้วยการเปิดตัวระบบ Performance-Based Admission (PBA) ร่วมกับ Woolf University เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงการศึกษาในระดับสูงผ่านการแสดงศักยภาพในการเรียนรู้ที่แท้จริง ระบบนี้กำลังเป็นที่นิยมในหลายมหาวิทยาลัยทั่วโลก โดยมีการใช้งานในสถาบันต่างๆ เช่น University of Rhode Island Northeastern University และ University of Pittsburgh
Performance-Based Admission (PBA) คืออะไร
PBA หรือ Performance-Based Admission คือรูปแบบการสมัครเรียนที่พิจารณาจากผลงานที่ผู้สมัครได้แสดงให้เห็นในระหว่างการเรียนหรือฝึกอบรมแทนการใช้ผลการเรียนเก่าหรือคะแนนสอบแบบเดิมๆ หลักการของ PBA คือการให้โอกาสผู้เรียนได้แสดงศักยภาพในการเรียนรู้ผ่านการลงมือทำจริงๆ ซึ่งช่วยให้ทั้งผู้เรียนและสถาบันมั่นใจได้ว่าความสามารถและความตั้งใจของผู้เรียนจะสอดคล้องกับความต้องการของหลักสูตรปริญญาโท และจากการที่ WeStride ร่วมมือกับ Woolf University ทำให้การรับเข้าผ่าน PBA เป็นไปตามมาตรฐานสากลที่ Woolf University กำหนด ส่งผลให้ผู้เรียนได้พิสูจน์ตัวเองผ่านการฝึกฝนและพัฒนาทักษะจริงๆ
เหตุผลที่ควรเลือกสมัครแบบ PBA และใครบ้างที่เหมาะสม
PBA เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่อาจไม่มีพื้นฐานการศึกษาในระดับที่ดีเยี่ยมหรือไม่ได้มาจากสายวิชาการที่ตรงกับสาขาที่ต้องการเรียน อย่างไรก็ตาม PBA มอบโอกาสให้ผู้เรียนได้พิสูจน์ความสามารถและความมุ่งมั่นของตนเองผ่านการเรียนรู้เชิงปฏิบัติ ทำให้ PBA เหมาะกับบุคคลหลากหลายกลุ่ม เช่น
- ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนสายงานหรือสาขาวิชาที่เรียนมาก่อน
- ผู้ที่มีประสบการณ์การทำงานแต่ไม่มีผลการเรียนที่สามารถแสดงได้ดีพอ
- ผู้ที่ต้องการทดลองเรียนเพื่อดูว่าตนเองเหมาะกับหลักสูตรนี้หรือไม่
ข้อดีของการลงทะเบียนเรียน PBA กับ WeStride
WeStride และ Woolf ได้พัฒนาโปรแกรม PBA เพื่อตอบโจทย์นักเรียนที่ต้องการความยืดหยุ่นในเส้นทางการเรียนรู้ ผู้เรียนสามารถเริ่มต้นเรียนในหลักสูตรปริญญาโทได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านการคัดเลือกในขั้นตอนการสมัครทั่วไป ข้อดีของการลงทะเบียนเรียนแบบ PBA กับ WeStride ได้แก่
- เรียนรู้ผ่านการลงมือทำจริง สามารถแสดงความสามารถของตนเองโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับประวัติการศึกษาที่ผ่านมา
- ทดลองเรียนหลักสูตรก่อนจะตัดสินใจลงทะเบียนเต็มตัว ทำให้สามารถมั่นใจได้ว่าสาขาที่เลือกเรียนสอดคล้องกับความสนใจและความสามารถ
- การเรียนมีความยืดหยุ่น สามารถจัดการเวลาเรียนให้สอดคล้องกับตารางชีวิตส่วนตัวได้
- การร่วมมือกับ Woolf University ที่มีมาตรฐานการศึกษาสูง ช่วยให้มั่นใจในคุณภาพของการเรียนการสอน
- มีโอกาสปรับปรุงผลการเรียน หากผลการเรียนไม่ถึงเกณฑ์ ผู้เรียนสามารถสอบซ้ำหรือทำงานที่ได้รับมอบหมายใหม่ได้จนกว่าจะผ่านเกณฑ์ที่กำหนด
เกณฑ์การเปลี่ยนจาก PBA ไปสู่การลงทะเบียนเต็มตัว
ผู้ที่ลงทะเบียนเรียนผ่าน PBA กับ WeStride จะต้องปฏิบัติตามเกณฑ์ที่ Woolf University กำหนดในการเปลี่ยนผ่านจากการเป็นผู้เรียนในโปรแกรม PBA ไปสู่การลงทะเบียนเรียนเต็มตัวในหลักสูตรปริญญาโทอย่างเป็นทางการ โดยผู้เรียนต้องทำตามข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้:
- เรียนครบ ≥250 ชั่วโมง หรือ
- เรียนครบ ≥25% ของหลักสูตร
นอกจากนี้ผู้เรียนยังต้องรักษาเกรดเฉลี่ย (GPA) ที่ 90% หรือสูงกว่าในช่วงที่ได้รับการรับเข้าเรียนเต็มตัว ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ WeStride ให้ความสำคัญ เนื่องจากการที่นักเรียนส่วนใหญ่สามารถทำคะแนนได้สูงกว่า 90% แสดงถึงความตั้งใจและความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับหลักสูตรที่มีความท้าทายสูง อย่างไรก็ตาม WeStride ยังเปิดโอกาสให้ผู้เรียนที่ยังไม่สามารถถึงเกณฑ์นี้สอบซ้ำหรือปรับปรุงงานที่ได้รับมอบหมายเพื่อให้ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด
การสมัครเรียนปริญญาโทผ่านระบบ Performance-Based Admission (PBA) ของ WeStride เป็นโอกาสที่เปิดกว้างสำหรับผู้เรียนที่ต้องการพิสูจน์ความสามารถของตนเองผ่านการเรียนรู้เชิงปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มีประสบการณ์การทำงาน หรือผู้ที่ต้องการเปลี่ยนสายอาชีพ โปรแกรม PBA มอบความยืดหยุ่นและโอกาสในการเรียนรู้ที่เน้นผลลัพธ์จริง ทำให้ผู้เรียนสามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่การเป็นนักศึกษาปริญญาโทเต็มตัวได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด